2494 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ เมื่อวันที่ 17 เมษายน พ. 2497 ในปี พ. 2494 ขณะนั้นวัดสุทัศนเทพวราราม โดยท่านเจ้าคุณศรีสัจจาญาณมุนี (สนธิ์) ได้ดำริจัดสร้างพระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขนาดเล็กขึ้น โดยใช้ชนวนเก่าที่เหลือจากการเทพระกริ่งรุ่นต่างๆ ของสายวัดสุทัศน์มาผสมด้วย ลักษณะของรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นรูปเหมือนเต็มองค์ทรงเครื่องกษัตริย์นักรบ สวมพระมาลา พระหัตถ์ซ้ายทรงพระแสงดาบ ประทับนั่งบนพระแท่นฐาน 2 ชั้น น้ำหนักถ่วงมือ เนื้อสีเหลืองอมเขียว ได้รับความนิยมเสาะหากันทั่วไปทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน วันที่ 28 ธ. ของทุกปี เชื่อว่าชาวไทยทั่วประเทศยังคงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่แห่งองค์สมเด็จพระเจ้าตาก (สิน) มหาราช มีพระคาถาบูชาจำง่ายๆ สั้นๆ ป้องกันภัยพิบัติกำจัดเสี้ยนศึกศัตรู สร้างความเป็นสิริมงคลกับตนเอง โดยตั้งนโมสามจบ อธิษฐานบูชาเก้าคาบว่า "โอม ปู่ตากจตุอิตัง ตากสินราชะโย ตังอิ" ครับผม
1 ต้องสะสางความวุ่นวายนี้ให้เด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดการนองเลือดขึ้น เมื่อในหลวง ร. 1 ได้เข้ามาปราบปรามการจลาจลในกรุงธนบุรี และปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์แล้ว พระองค์ทรงลงพระราชอาญาเพียงพระเจ้าตากสิน กับ เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ (สมเด็จเจ้าฟ้าจุ้ย) ซึ่งเป็นพระราชโอรสองค์โตของพระเจ้าตากสินเท่านั้น ส่วนพระราชโอรสพระราชธิดาพระองค์อื่น ๆ ของพระเจ้าตากสิน ในหลวง ร. 1 ทรงชุบเลี้ยงไว้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ กรมขุนกษัตรานุชิต (เจ้าฟ้าเหม็น) ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของในหลวง ร. 1 รวมถึงพระพงษ์นรินทร์ (เจ้าฟ้าทัศพงศ์) พระราชโอรสลำดับที่ 4 ของพระเจ้าตาก และพระอินทร์อภัย (เจ้าฟ้าทัศไภย) พระราชโอรสลำดับที่ 14 ของพระเจ้าตาก โดยเฉพาะสองพระองค์หลัง ในหลวง ร. 1 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นถึงแพทย์หลวงประจำพระองค์เลยทีเดียว แสดงให้เห็นว่าทรงไว้วางพระราชหฤทัยจนถึงขนาดฝากให้ดูแลพระพลานมัยได้ ภายหลัง เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ กรมขุนกษัตรานุชิต (เจ้าฟ้าเหม็น) กับเจ้าพระยาพลเทพ (นายบุนนาค บ้านแม่ลา) ได้คิดก่อการกบฏในสมัยรัชกาลที่ 2 เจ้าฟ้าเหม็นกับบุตรชายจึงได้ถูกลงพระราชอาญา ทั้งนี้ก็เป็นไปเพื่อป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย สำหรับเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ (สมเด็จเจ้าฟ้าจุ้ย) หากยอมรับใช้ราชการ ในหลวง ร.
25 กุมภาพันธ์ 2562 ยอดผู้ชม 62181 ครั้ง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พระเครื่องทุกรุ่นของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ. ระยอง ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้ราคาเช่าหาสูงขึ้นเรื่อยๆ และต่อเนื่องตลอดมา จนพระบางรุ่นมีราคาสูงสุดเอื้อมสำหรับนักสะสมบางคนที่มีปัจจัยจำกัด ทำให้เกิดกระแสนิยมมองหาพระเครื่องบางรุ่นที่มิใช่ พระหลวงปู่ทิม โดยตรง แต่เป็นพระเครื่องที่ท่านได้เมตตาร่วมปลุกเสกให้ด้วย หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ อาทิ เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ปี 2518 เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างโดย ค่ายตากสินมหาราช จ. จันทบุรี มี 4 เนื้อ คือ 1. เนื้อทองคำ 49 เหรียญ ไม่ตอกโค้ดทั้งหน้าและหลัง 2. เนื้อนวโลหะ 1, 000 เหรียญ ตอกโค้ด "ตส" ข้างบนด้านซ้ายของพระมาลา ด้านหน้าของเหรียญ 3. เนื้อทองแดงชุบนิเกิ้ล 310 เหรียญ (แจกกรรมการ) ตอกโค้ด "ตส" ด้านหลังของเหรียญ และ 4. เนื้อทองแดงรมดำ 30, 000 เหรียญ ตอกโค้ด "ตส" ด้านหน้าของเหรียญ ใต้พระแสงดาบด้านขวาของพระองค์ท่าน เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ปี 2518 เนื้อนวโลหะ พิธีปลุกเสก 3 ครั้ง ครั้งแรกโดย พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ. สกลนคร ปลุกเสกเดี่ยว 1 ไตรมาส ปี 2518 ครั้งที่ 2 โดย หลวงปู่ทิม อิสริโก ปลุกเสกเดี่ยว 7 วัน ระหว่างวันที่ 1-7 กันยายน 2518 หลวงปู่ทิมบอกว่า "เหรียญนี้ดีทางคุ้มครองป้องกันโจรผู้ร้าย และป้องกันเสนียดจัญไร ไม่ให้เข้ามาทำร้ายได้ และรักษาบ้านเรือนให้อยู่เย็นเป็นสุข" ครั้งที่ 3 พิธีใหญ่ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2518 ณ ค่ายตากสิน จ.
สวรรค์ กาญจนะ ผอ. รพ. ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ คุณภักดิพร-สุรบถ หลีกภัย และท่านอื่นๆ ผมก็แกะจับจ่ายไปตามเรื่อง ยังเหลือ ๓๐, ๐๐๐ บาท เมื่อวาน (๒๗ ธ. ค. )
2310 รวมใช้เวลารวบรวมผู้คนจนเป็นทัพใหญ่กลับมากู้ชาติด้วยระยะเวลาเพียง 7 เดือนเท่านั้น เมื่อทรงจัดการบ้านเมืองเรียบร้อยพอสมควร บรรดาแม่ทัพ นายกอง ขุนนาง ข้าราชการทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ตลอดทั้งสมณะพราหมณาจารย์และอาณาประชาราษฎร์ทั้งหลาย จึงพร้อมกันกราบบังคมทูลอัญเชิญขึ้นทรงปราบดาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ ณ วันพุธ เดือนอ้าย แรก 4 ค่ำ จุลศักราช 1130 ปีชวด สัมฤทธิศก ตรงกับวันที่ 28 ธันวาคม พ.
2317 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จไปร่วมในการฝังศพที่มัสยิดต้นสน (มัสยิดกุฎีใหญ่) จากนั้นแต่งตั้งพระยายมราช (ทองด้วง) ขึ้นเป็นเจ้าพระยาจักรี อ้างอิง: ปเรตร์ อรรถวิภัชน์. เจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์ (จักรีแขก) มุสลิมกู้ชาติ ใน นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 37 ฉบับที่ 7 เดือนพฤษภาคม. 2560 เผยแพร่เนื้อหาในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อ 28 พฤษภาคม พ. 2562
ย้อนอดีตกลับไป ๒๕๓ ปี สู่ห้วงเวลาไทยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ ให้กับกองทัพพม่า เมื่อปี พ. ศ.
ทิ้งไว้สักระยะ รอจังหวะสีให้หมาดๆ ไม่เปียกเกินไปหรือแห้งจนเกินไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลินซิสที่ใช้ว่าเป็นแบบธรรมดาหรือแห้งเร็ว หากแบบธรรมดาใช้ระยะประมาณ 1-2 วัน 4. เมื่อจังหวะของสีใกล้ที่จะแห้ง แต่ยังหนึบๆอยู่ (ลองใช้นิ้วมือเตะๆ) ให้แทรกสีเพิ่มแสงขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนของเงา ค่อยๆเพิ่มเติมและยังไม่ใช้น้ำหนักที่เข้มสุด 5. กำหนดรายละเอียดขององค์ประกอบในภาพคร่าวๆทั้งภาพ โดยค่อยๆเพิ่มน้ำหนักให้ชัดขึ้น ในขณะเดียวกันต้องคอยตรวจสอบบรรยากาศของสีไม่ให้หลุดบรรยากาศออกไป 6.
ศ. 2497 คณะรัฐบาลในสมัยจอมพล แปลก พิบูลสง คราม เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนทุกได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประดิษฐานอยู่ ณ วงเวียนใหญ่ กรุงธนบุรี เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2549 ตัวอนุสาวรีย์สูง 8. 59 เมตร กว้าง 1. 8 เมตร ยาว 3. 50 น. ด้วยรูปหล่อทองสัมฤทธ์บรมรูปทรงม้า ทรงพระมาลา ยกกรข้างขวาชูด าบ พร้อมที่จะเผชิญกับข้าศึกอย่างฉับพลัน เพื่อน้อมรำลึกถึงในพระเกียรติประวัติ เกียรติยศ เกียรติคุณ ให้ทรงปรากฏกับอนุชนรุ่นหลังสืบต่อมา โดยถือกำหนดเอาวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันถวายบังคมราชสักการะคล้าย วันปราบดาภิเษก เสด็จขึ้นเสวยราชย์ ที่มา: welovemyking