สำหรับวันนี้เราจะพาสมาชิกทุกคนไปดูวิธีการเลี้ยงมดแดงคอนโด แค่ฟังชื่อก็น่าสนใจแล้วละครับ อุปกรณ์และขั้นตอนการทำง่ายมาก ซึ่งปัจจุบันนั้นไข่มดแดงถือว่ามีราคาค่อนข้างสูงมากในตลาด การเลี้ยงมดแดงเพื่อเก็บไข่ไว้ไปขาย ถือว่าเป็นช่องทางที่น่าสนใจมากๆเลยทีเดียว ขั้นตอนจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยครับ วัสดุและอุปกรณ์ 1. ขวดน้ำพลาสติกขนาด 1. 25 ลิตร จำนวน 5-10 ขวด (ล้างน้ำให้สะอาด) 2. เชือกไนล่อนสำหรับผูก (ใช้เป็นเชือกฟางก็ได้ครับ) 3. กิ่งไม้สำหรับเป็นสะพานทางเชื่อม ตวามยาวประมาณ 30 เซนติเมตร จำนวน 10-20 อัน 4. ลวด 1-2 ฟุต หรือตามขนาดรอบวงของต้นไม้ 5-10 ขด 5. น้ำ และอาหาร เช่น หัวปลา ก้างปลา ปู กุ้ง 6. คัตเตอร์ 7. คีมตัดลวด 8. ถุงปุ๋ย ขั้นตอนการเลี้ยง 1. ตัดคอขวดน้ำพลาสติก จากนั้นนำส่วนหัวของขวด ประกบกลับด้านลงไปให้เข้ากับส่วนล่างของขวด จากนั้นยึดทั้งสองส่วนให้เข้ากันด้วยเทปกาว 2. ใส่อาหารมดแดงลงไป เพื่อจะล่อให้มดแดงเข้ามาอยู่ 3. นำคัตเตอร์มาปาดข้างขวดพลาสติกอีกใบ เพื่อให้มดแดงสามารถเดินไปกินน้ำได้ ต่อมาให้นำน้ำเปล่าที่ผสมน้ำหวานเติมลงไปในขวด 4. ใช้เชือกแขวนขวดทั้งสองใบไว้บริเวณใต้ต้นไม้ โดยให้วัดจากระดับพื้นดินขึ้นไปประมาณ 1 เมตร จากนั้นใช้เชือกผูกขวดไว้กับต้นไม้และหย่อนเชือกลงมาในขวดอาหารและน้ำด้วย เพื่อเป็นทางเดินให้มดนั่นเองครับ 5.
มารู้จักไข่มดแดงสุดอร่อย รู้จักกับไข่มดแดง ไข่มดแดง นับว่าเป็นอาหารที่รสชาติแซ่บมากกก ของภาคอีสาน และหลายๆคนคงเคยรู้จักหรือรับประมานกันมาบ้างแล้ว ไข่มดแดงคือไข่ของมดแดงนั่นเอง 10 เรื่องจริงของมดแดง หากพูดถึง "มดแดง" เชื่อว่าหลายคนคงจะจำความรู้สึกตอนโดนกัดได้เป็นอย่างดี และคงผ่านประสบการณ์การโดนกัดกันมาไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่พิษจากมดแดงจะทำให้ใครต่อใครเจ็บจนขยาดเท่านั้น แต่มดแดงยังสร้างความเสียหายให้กับอาหารของเรา ทั้งยังมีอีก 10 เรื่องราวที่ใครหลายคนยังไม่รู้ต่อไปนี้ 1. มดแดง เป็นมดที่เลือกทำรังบนต้นไม้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นต้นที่มีใบขึ้นหนาแน่น เป็นไม้ยืนต้น โดยเฉพาะต้นมะม่วง (จนเกิดเป็นที่มาของคำพังเพยว่า "มดแดงแฝงพวงมะม่วง") 2. สำหรับในรังของมดแดงนั้น จะมีมดตัวหนึ่งที่เป็นนางพญาหรือเป็นราชินีมด ซึ่งเปรียบเสมือนผู้นำ คอยวางไข่ บริหารจัดการไข่ทุกอย่าง รวมถึงดูแลความเป็นไปของบริวารมดทุกตัวในรัง โดยนางพญามดหรือราชินีมดนี้ จะมีรูปลักษณ์แตกต่างจากมดแดงทั่วไปอย่างชัดเจน 3. นอกจากราชินีมดแล้ว ครอบครัวของมดจะประกอบไปด้วย "มดงาน" ด้วย ซึ่งมดงานจะเป็นเหมือนแรงงานชั้นยอด โดยภายในรังจะมีมดงานหลายระดับ แต่ละระดับจะแบ่งหน้าที่ในการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่หาอาหาร ดูแลราชินีมด และอื่นๆ อีกมากมาย เปรียบเสมือนทีมเวิร์คในองค์กรก็ว่าได้ 4.
ละ 800-1, 000 บาท ส่วนตัวมดแดงสามาsถขายได้ถึง กก. ละ 250 บาท โดยไข่มดแดงส่วuใหญ่จะขายในชุมชน ตักขาย 2 ช้อน 20 บาท สร้างรายได้ให้แก่คsอบครัวไม่ต่ำกว่าสัปดาห์ละ 5, 000 บาท หรือปsะมาณเดือนละ 20, 000 บาท เรียบเรียงโดย คนบ้านนอก แหล่งที่มา:,
วังทอง จ. พิษณุโลก เลี้ยงมดแดงขายไข่ ตามโครงการปิดทองหลังพระจากปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่ จนมีผู้ให้ความสนใจหันมานิยมเลี้ยงมดแดงขายไข่กันมากขึ้น สร้างรายได้เสริมแก่ครอบครัว เน้นหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวง สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวถึงเดือนละ 30, 000 บาท โดยที่แปลงการทำเกษตรผสมผสานบนเนื้อที่ 7 ไร่ เป็นของนายบุญชู ศิดสันเทียะ อายุ 45 ปี และนางดาว ศิดสันเทียะ อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 416 หมู่ 4 ต. หนองพระ อ. พิษณุโลก โดยในเนื้อที่ 7 ไร่ ได้มีการปลูกพืชพักผลไม้ เลี้ยงหมู ขุดบ่อเลี้ยงปลา แต่ที่โดดเด่นของสวนเกษตรพอเพียงของนายบุญชู คือ การเลี้ยงมดแดง ขายตัวและไข่ แบบแปลกไม่เหมือนเกษตรกรรายอื่น เลี้ยงมดแดง-ขายไข่มดแดง ที่มาภาพจาก นายบุญชู ศิดสันเทียะ เจ้าของสวน กล่าวว่า ตนประสบความสำเร็จเรื่องการเลี้ยงมดแดงเพื่อขายไข่จากโครงการปิดทองหลังพระ และเน้นหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวง มาตั้งแต่ปี พ. ศ.
5 กก. )
จากอาชีพเก็บขยะขายไปวันๆ รายได้ไม่ค่อยสมดุลกับรายจ่าย แต่ด้วยเป็นคนขยันทำมาหากิน จึงถูกรับเลือกให้เข้าอบรมอาชีพทำเกษตรกรรมกับกรมการปกครอง ในโครงการปิดทองหลังพระตามแนวพระราชดำริ ที่เน้นนโยบายการสร้างชุมชนเข้มแข็ง ปัจจุบันเขามีธุรกิจที่มั่นคงด้วยการ "เลี้ยงมดแดงเพื่อขายไข่" ควบการพลิกฟื้นผืนดินทำเกษตรผสมผสานเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง นายบุญชู ศิดสันเทียะ เจ้าของธุรกิจเลี้ยงมดแดงเพื่อขายไข่ จ.
กาญจนบุรี จะรับซื้อไปเป็นอาหารสัตว์ของตัวสมเสร็จ หรือชะมดเช็ด สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวถึงเดือนละ 30, 000 บาท ซึ่งมดแดงเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายและสร้างกำไรงามให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย เลี้ยงมดแดง ขายไข่ นับว่าเป็นอีกอาชีพเกษตรที่น่าสนใจ เพราะสามารถนำไปตามแนวเกษตรผสมผสานได้ ซึ่งทำให้สร้างรายได้หลายทาง ใครสนใจก็ลองนำไปประยุคให้เข้ากับพื้นที่ที่ทำเกษตรนั้นๆดูกันเลย….. ขอบคุณ ที่มาเรื่องข่าว ชาวบ้านเลี้ยงมดแดงขายไข่ รายได้งามเดือนละ 3 หมื่นบาท จาก
ไผ่ขวางและต. เมืองพิจิตรจะช่วยกันทำข้าวเม่าพอกจำหน่าย เงินรายได้ทั้งหมดเข้าพัฒนาวัดตั้งแต่อดีตเจ้าอาวาส จำหน่ายมาตั้งแต่แพละ 3 บาท 5 บาท 10 บาท และมาถึงปี 2556 แพละ 20 บาท ก็ยืนราคามาหลายปีแล้ว แต่ปี 2557 ได้ปรับราคาขึ้นเป็นแพละ 25 บาท เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบทุกอย่างเพิ่มขึ้น และยังคงร่วมสืบสานประเพณีดั้งเดิมในการร่วมกันทำข้าวเม่าพอกจะนำเงินทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์เข้าพัฒนาวัดหาดมูลกระบือ คณะกรรมการที่มาทำข้าวเม่าพอกก็มาด้วยใจ ไม่มีค่าจ้างใด ๆ ในวันแข่งเรือ 20-21 ก. ย. 2557 ชาวบ้านจากต. ย่านยาว ก็จะมาสมทบช่วยกันทำจำหน่ายที่พิษณุโลกอีกจำนวนมาก สำหรับการออกร้านจำหน่ายข้าวเม่าพอกของวัดหาดมูลกระบือนั้น เดิมมีเฉพาะงานประเพณีแข่งเรือวัดหาดมูลกระบือจากนั้น ได้รับการร้องขอจากสนามอื่น ๆ ในพิจิตรและพิษณุโลกให้ไปเปิดร้านจำหน่าย เริ่มจาก วัดหาดมูลกระบือ วัดท่าฬ่อ วัดท่าหลวง จ. พิจิตร และวัดใหญ่ จ. พิษณุโลก และปีนี้จะไปปิดท้ายที่วัดบางบัวทอง อ. โพธิ์ประทับช้างจ. พิจิตร และช่วงปีหลัง ๆ ทำเงินรายได้เข้าวัดร่วมปีละ 1 ล้านบาท เฉพาะที่พิษณุโลกมียอดขายเฉลี่ยวันละ 30, 000-40, 000 บาท ข้าวเม่าพอก จึงเป็นสิ่งที่เคียงคู่กันมาของงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ ของจ.