2 ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีผู้ส่งสินค้าจ่ายเงินค่าระวางเรือสำหรับการขนสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย ให้ผู้รับจัดการขนส่งที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และผู้รับจัดการขนส่งที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และมีตัวแทนที่เป็นนิติบุคคลดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ผู้ส่งสินค้ามีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3 เนื่องจากรายได้ดังกล่าวมิใช่เป็นค่าระวางสินค้า แต่เป็นรายได้จากการให้บริการจัดหาระวางเรือ เพราะผู้รับจัดการขนส่งไม่ใช่ผู้ขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ ถูกต้องหรือไม่ 2.
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย กรณีการประกอบกิจการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน (Freight Forwarder) ข้อเท็จจริง สมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย (Thai Airfreight Forwarders Association) หารือกรมสรรพากรเกี่ยวกับการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย กรณีการประกอบกิจการรับ จัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน (Freight Forwarder) ตามคำชี้แจงกรมสรรพากร ลงวันที่ 20 กรกฎาคม พ. ศ. 2544 และตามหนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0811/7275 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม พ. 2544 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท. ป. 4/2528ฯแก้ไขเพิ่มเติมโดย ท. 101/2544ฯ แนววินิจฉัย 1. กรณีการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยานขาออก (Air Fre ight Outbound) 1. 1 กรณีผู้ใช้บริการ (Shipper หรือ Forwarder) จ่ายค่าระวาง ค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าขาออกให้กับสายการบิน โดยสายการบินออก ใบตราส่ง Master Air Waybill) ให้กับผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหัก ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ดังนี้ (1) กรณีจ่ายให้กับสายการบินไทย ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา ร้อยละ 3.
1 แล้ว เมื่อ เจ้าของสินค้า (Shipper) จ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าขาออกดังกล่าวให้กับ Freight Forwarder เจ้าของสินค้ายังคงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 3. 0 จากยอดรวมทั้งหมด ตาม ข้อ 12/1 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท. 4/2528 ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ. 2528 ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท. 101/2544 ฯ ลงวันที่ 27 มิถุนายน พ.
ความร่วมมือทางภาษีระหว่างประเทศ: SGATAR ดร.
1 ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้กับสายการบินในนามของ Freight Forwarder และยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามแบบ ภ. ง. ด. 53 โดยระบุชื่อ ที่อยู่ และ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของ Freight Forwarder ในช่อง "ผู้จ่ายเงิน" ซึ่งกรมสรรพากรจะ ออกใบเสร็จรับเงินในนามของ Freight Forwarder กรณีดังกล่าว Freight Forwarder ไม่ต้อง ปฏิบัติตามข้อ 4 ของคำชี้แจงกรมสรรพากร ลงวันที่ 20 กรกฎาคม พ. 2544 อย่างไรก็ดี หาก Freight Forwarder สามารถแยกจ่ายค่าขนส่งสินค้าขาออกให้กับสายการบินในนามของเจ้าของสินค้า แต่ละรายได้ ให้ Freight Forwarder ปฏิบัติตามข้อ 4 ของคำชี้แจงกรมสรรพากร ลงวันที่ 20 กรกฎาคม พ. 2544 ซึ่งการปฏิบัติตามข้อ 4 ของคำชี้แจงกรมสรรพากรดังกล่าว เมื่อเจ้าของสินค้า จ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าขาออกคืนให้กับ Freight Forwarder เจ้าของสินค้าไม่มีหน้าที่ต้องหัก ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย กรณี Freight Forwarder จ่ายเงินทดรองจ่ายแทนเจ้าของสินค้า เป็นค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าขาออกทั้งหมดให้กับสายการบิน ซึ่ง Freight Forwarder มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามหลักเกณฑ์ตาม 1.
กำหนดให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจมีอำนาจเปิดเผยข้อมูลที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลตามสัญญา แก่เจ้าพนักงานประเมินตามประมวลรัษฎากรหรือหน่วยงานอื่น ทั้งนี้ ตามความที่กำหนดในความตกลง แล้วแต่กรณี ๔.
๒. กำหนดให้ผู้มีหน้าที่รายงานจัดให้ลูกค้าหรือผู้ใช้อำนาจควบคุมของลูกค้าที่เปิดหรือมีบัญชีทางการเงินกับผู้มีหน้าที่รายงาน แสดงตนตามวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง ๒. ๓. กำหนดให้ลูกค้าของผู้มีหน้าที่รายงานหรือผู้ใช้อำนาจควบคุมของลูกค้าของ ผู้มีหน้าที่รายงาน แจ้งข้อความในการแสดงตนโดยถูกต้องและครบถ้วน ๒. ๔. กำหนดให้ผู้มีหน้าที่รายงานมีหน้าที่รวบรวมและตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบัญชีทางการเงินที่ตนเก็บรักษาของลูกค้า เพื่อบ่งชี้บัญชีทางการเงินของผู้ที่ต้องถูกรายงาน ๒. ๕. กำหนดให้เมื่อผู้มีหน้าที่รายงานได้ดำเนินการตาม ๒. ๒ และ ๒. ๔ แล้ว ปรากฏว่า มีบัญชีทางการเงินที่ถือโดยลูกค้าที่เป็นผู้ที่ต้องถูกรายงาน หรือโดยลูกค้าที่มีผู้ใช้อำนาจควบคุมเป็นผู้ที่ต้องถูกรายงานตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ให้ผู้มีหน้าที่รายงานรายงานข้อมูลที่ต้องรายงานต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ๒. ๖. กำหนดให้ผู้มีหน้าที่รายงานเก็บรักษาข้อมูลและเอกสารหลักฐานใด ๆ ในการดำเนินการตามมาตรา ๒. ๒ ๒. ๔ และ ๒. ๕ เป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าปีนับแต่วันที่สิ้นสุดระยะเวลาที่ผู้มีหน้าที่รายงานต้องดำเนินการตาม ๒. ๗. กำหนดให้ผู้มีหน้าที่รายงานจะแต่งตั้งตัวแทนเพื่อดำเนินการตาม ๒.
ย.