หน่อไม้ เช่นเดียวกับมันสำปะหลัง หน่อไม้ดิบนั้นก็มีสารพิษไซยาไนด์สูงเช่นเดียวกัน การกินหน่อไม้ให้ถูกวิธีและไม่ต้องกลัวอันตราย คือการนำหน่อไม้ไปต้มในน้ำเดือดจัดอย่างน้อย 10 นาทีจึงจะเป็นการทำลายสารพิษได้ค่ะ 8. ผักโขม ผักโขมนั้นไม่ได้ถูกห้ามกินดิบค่ะ เพียงแต่กรดออกซาลิกในผักโขมดิบนั้นสามารถเข้าไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็กในร่างกายได้ ทำให้ร่างกายของเรารับแคลเซียมและธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ซึ่งนอกจากผักโขมดิบจะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมแล้ว ยังยับยั้งไม่ให้ร่างกายนำแคลเซียมไปใช้ด้วย เรียกว่าหากกินผักโขมดิบ ร่างกายก็แทบจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากแคลเซียมและธาตุเหล็กค่ะ......................................... อัพเดทเทรนด์เมคอัพ แฟชั่น เคล็ดลับลดน้ำหนัก และไลฟ์สไตล์ผู้หญิงใหม่ๆ ทุกวัน ได้ที่แอปพลิเคชัน ทรูไอดี ดาวน์โหลดเลย ที่นี่!! บทความที่คุณอาจสนใจ
"กินดิบ" แล้ว "เสี่ยงตาย" จริงหรือ? Anti-Fake News Center Thailand ได้เผยเเพร่ข้อมูลเพื่อชี้เเจง กรณีมีเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ผัก 5 ชนิด คือ กะหล่ำปลี ถั่วงอก ถั่วฝักยาว หน่อไม้ ผักโขม ไม่ควรกินดิบ เพราะมีความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต โดยตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง ผักบางชนิดไม่ควร "กินดิบ" เพราะมีสารบางชนิดในตัวเอง หรือมีการปนเปื้อนสะสมของสารเคมีต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายส่งผลเสียต่อสุขภาพ บางชนิดหากกินในปริมาณมากอาจเสียชีวิต ได้แก่ 1. กะหล่ำปลี มีสารกอยโทรเจน 2. ถั่วงอก มีแบคทีเรียและสารฟอกขาว 3. ถั่วฝักยาว มีสารกำจัดศัตรูพืช 4. หน่อไม้ มีไซยาไนด์ซึ่งสารเหล่านี้กำจัดได้ด้วยความร้อน หากล้างให้สะอาดนำมาปรุงสุกสามารถกินได้ 5. ผักโขม มีกรดออกซาลิกสูง ควรกินในปริมาณพอเหมาะ ผักดิบทั้ง 5 ชนิด หากล้างไม่สะอาด เสี่ยงปนเปื้อนแบคทีเรีย สารเคมี เมื่อกินเข้าไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ผู้ป่วยที่มีภาวะไฮโปไทรอยด์ไม่ควรกินกะหล่ำปลีดิบ นอกจากนี้ ผักดิบย่อยยากถ้ากินมากอาจเกิดแก๊สทำให้ท้องอืดได้
8 กรัม - ไขมัน 0. 1 กรัม - คาร์โบไฮเดรต 6. 6 กรัม - ไฟเบอร์ 0. 7 กรัม - น้ำ 90. 0 กรัม - เถ้า (Ash) 0. 5 กรัม - แคลเซียม 27 มิลลิกรัม - ฟอสฟอรัส 85 มิลลิกรัม - ธาตุเหล็ก 1. 9 มิลลิกรัม - ไทอะมิน 0. 07 มิลลิกรัม - ไรโบฟลาวิน (วิตามินบี) 0. 03 มิลลิกรัม - ไนอะซิน 1. 0 มิลลิกรัม - วิตามินซี 12 มิลลิกรัม เห็นไหมคะว่าถั่วงอกเพียง 1 ขีด (100 กรัม) ก็ให้คุณค่าทางสารอาหารได้ไม่น้อยเลยทีเดียว และใครที่สงสัยว่ากินถั่วงอกอ้วนไหม ก็ตอบได้เลยว่ากินถั่วงอกแล้วไม่อ้วนแน่นอนค่ะ เพราะถั่วงอกให้แคลอรีเพียง 39 กิโลแคลอรีต่อปริมาณ 100 กรัมเท่านั้น ทว่าหากไม่อยากอ้วนก็ควรต้องควบคุมอาหารอื่น ๆ พร้อมทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยจ้า สรรพคุณของถั่วงอก บอกเลยว่าแจ่ม! 1. ช่วยในการย่อยและระบบขับถ่าย ในถั่วงอกมีไฟเบอร์อยู่จำนวนไม่น้อย อีกทั้งยังมีน้ำ และเอนไซม์ชนิดหนึ่งซึ่งมีหน้าที่ช่วยย่อยอาหารในระบบลำไส้ ทำให้การดูดซึมแร่ธาตุ-สารอาหารของลำไส้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งไฟเบอร์และน้ำในถั่วงอกยังจะช่วยให้ระบบขับถ่ายมีความคล่องตัวมากขึ้น ช่วยลดของเสียและสิ่งตกค้างในร่างกายไปกับการขับถ่ายด้วย 2. ช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย ด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในถั่วงอก ทำให้ถั่วงอกเป็นผักชนิดหนึ่งซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณ อีกทั้งในถั่วงอกยังมีสารต้านความชราที่ชื่อว่า ออซินอน โดยสารตัวนี้มีคุณสมบัติบำรุงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายให้มีความฟิตเฟิร์ม ไม่แก่เร็วเกินไปก่อนเวลาอันควร ที่สำคัญด้วยคุณสมบัติของไฟเบอร์และน้ำในถั่วงอก ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและระบบขับถ่าย การรับประทานถั่วงอกเข้าไปจึงจะช่วยให้ร่างกายขับของเสียและสิ่งตกค้างออกมาได้ง่ายขึ้นอีกด้วย 3.
พบหมอรามาฯ - "ถั่วงอกดิบ" กับอันตรายที่ควรระวัง, มะเร็งปากมดลูก 05/03/63 l RAMA CHANNEL - YouTube