เสียสละเพื่อลูกน้อง 2. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ลูกน้องมีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ 3. ให้กำลังใจลูกน้องเสมอ ทั้งคำพูดและการกระทำ 4. เมื่อมีปัญหาต้องเข้าไปช่วยเหลือไม่ทิ้งกัน 5. มีความใส่ใจในเรื่องที่ลูกน้องร้องขอหรือต้องการ(ในเรื่องที่ถูกต้อง) 8. การพัฒนาสมาชิกในทีม (Team development) การพัฒนาทีม หมายถึงการที่เราปรับปรุงและเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจ ประสบการณ์และทักษะด้านต่างๆ ที่จำเป็น เพื่อให้สมาชิกในทีมทุกคนสามารถปฏิบัติงานได้ดีขึ้น และมีความก้าวหน้ามากขึ้น ทั้งเพื่อตัวของพนักงานและเพื่อหน่วยงาน 9. มีความคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking) ความคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking) หมายถึง การค้นหาวิธีการปฏิบัติงาน เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน ในทางที่ถูกต้องให้ดีขึ้น กว่าที่เคยทำมา โดยพึงระลึกไว้เสมอว่า "วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน และวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้" 10. ไม่ถือตัว และให้เกียรติลูกน้อง (Respectation) จากหนังสือ "10 ยอดคุณสมบัติหัวหน้างานที่ลูกน้องรักและทำงานให้อย่างเต็มใจยิ่ง" เขียนโดย ทองพันชั่ง พงษ์วารินทร์. ที่มา: ยอดคุณสมบัติหัวหน้างานที่ลูกน้องรัก
เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ไม่ว่าผลงานจะได้รับคำชมหรือคำติ คนมักจะพุ่งเป้ามาที่หัวหน้าก่อนเสมอ เพราะเป็นตำแหน่งที่ มีอำนาจการตัดสินใจสูงสุดในทีม เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ผลงานได้รับการชื่นชม ต้องให้เครดิตกับลูกน้องเสมอ อย่ารับไว้เป็นผลงานของตัวเองคนเดียว ในทางกลับกันเมื่อเกิดข้อผิดพลาด ก็ไม่ควรโยนความผิดให้คนอื่น และไม่รู้สึกอายที่จะขอโทษ ในกรณีที่ลูกน้องทำผิด สามารถตักเตือนได้แต่ไม่ควรซ้ำเติม ต้องรู้จักให้โอกาสคน แนะนำให้ลูกน้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและหาวิธีการแก้ไขปัญหา 6. โลกแคบ นี่มันปี 2020 แล้ว คนเป็นหัวหน้าต้องมี วิสัยทัศน์ กว้างไกล ตามยุคสมัยให้ทัน คอยเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ตลอด ทั้งความรู้ในการทำงานและมุมมองการใช้ชีวิต คงไม่มีใครอยากทำงานร่วมกับคนโลกแคบ ที่จำกัดความคิดอยู่ในกรอบของตัวเองโดยไม่ฟังใคร ในบางองค์กรที่มีพนักงานหลายเจเนอเรชั่น หัวหน้าต้องเปิดใจยอมรับความแตกต่างทางความคิดและรูปแบบการทำงานให้ได้ แล้วคุณล่ะเป็นหัวหน้าแบบไหน?
7 กฏเหล็ก เจรจาต่อรองยังไง? ให้สำเร็จ
64 เวลา 21:35 5 พ. 64 เวลา 21:22 นายช่างเทคนิค คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต หาดใหญ่ 7 ก. 64 เวลา 09:47 นักวิทยาศาสตร์ ศูนย์ชันสูตรโรคสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ 20 มิ. 64 เวลา 18:22 นักวิชาการศึกษา 11 พ. 64 เวลา 14:22 สำนักเครื่องมือวิทยาศาสตร์และการทดสอบ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ที่ทำงาน: อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา 15 มี. 64 เวลา 17:41 แม่บ้าน หจก. สร้างศิลป์3 5 เม. 65 เวลา 14:04 โฟร์แมน บริษัท คุณภาพคับแก้ว จำกัด 21 มี. 65 เวลา 10:29
อย่าเอาหน้า ในวันที่งานประสบความสำเร็จ หัวหน้าต้องยืนอยู่แถวหลัง แล้วให้ลูกน้องที่เป็นเจ้าของงานนั้นได้รับความดีความชอบไป เพราะคนที่เหนื่อยกับการทำงานควรได้รับผลตอบแทนมากกว่าหัวหน้า หรือหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น หัวหน้าที่ดีต้องออกหน้ารับแทนลูกน้อง การลงมือทำให้เห็นนั้น เป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดกว่าการไปบอกใครว่า นี่ๆ ทำแบบนี้สิแล้วจะดี แต่ความเป็นจริงแล้ว คนที่เป็นหัวหน้านี่แหละทำตามให้เห็นไปเลยถ้าอยากจะให้ลูกน้องทำอะไรง่ายกว่า 3. ให้คำปรึกษาได้ การให้คำปรึกษาแก่ลูกน้อง ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ถ้าน้องถามอย่างตั้งใจ ก็ควรให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง อย่าให้คำปรึกษาแบบขอไปทีเหมือนกับว่าธุระไม่ใช่ เพราะหากทำแบบนี้บ่อยๆ อนาคตน้องๆ จะไม่เปิดอกคุยกับคุณเลยแม้จะเป็นเรื่องงานก็ตาม ไม่ตำหนิลูกน้องต่อหน้าคนอื่น เวลาที่เราจะตำหนิใครจริงๆ สิ่งที่หัวหน้าที่มีสติควรทำคือตำหนิกันแค่สองคนในที่ที่ไม่ใครรับรู้ เพราะการตำหนิใครต่อหน้าที่ประชุมหรือคนเยอะนั้นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกผิด แต่มันทำให้เขารู้สึกอายมากกว่า และจะไม่เคารพคุณด้วยเพราะทำแบบนี้เหมือนไม่เคารพกัน 4. ไม่เอาลูกน้องไปนินทา การเอาเรื่องของลูกน้องไปเล่าในเชิงนินทานั้นไม่ใช่สิ่งที่หัวหน้าควรจะทำ เพราะจะทำให้ความรู้สึกเคารพในตัวหัวหน้าลดลงทันทีหากวันหนึ่งลูกน้องทราบเรื่อง อย่าหูเบา และปากไวคิดว่าการนินทาเป็นเรื่องสนุก รวมถึงการเป็นกลางกับ 5.
มีศิลปะในการมอบหมายงาน การมอบหมายงานอย่างถูกต้องไม่ใช่แค่การแบ่งงานกันทำตามหน้าที่เฉยๆ ผู้นำที่ดีควรทำให้การมอบหมายงานนั้นเคลียร์ก่อนว่า ต้องการให้พนักงานทำอะไร Make sure ว่าพนักงานเข้าใจหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องทำ สามารถมีคำแนะนำที่จะ Guide พนักงานได้ว่างานที่ต้องการนั้นควรจะเป็นแบบไหน อะไรคือความคาดหวังของคุณ และสิ่งนั้นจะส่งผลต่อเป้าหมายองค์กรอย่างไร หากการมอบหมายงานเป็นไปอย่างชัดเจน เคลียร์และง่าย ก็ส่งผลให้คนอื่นอยากจะร่วมงานกับคุณต่อไป และไว้ใจในการบริหารงานของคุณ 5.
โดย อ. สุภาพร จันทร์เพชร ในเมืองไทยยังไม่ค่อยมีหลักสูตรอบรมการบริหารลูกน้องอย่างไรให้สู่ความสำเร็จขององค์กรเพราะส่วนมากจะเน้นในเรื่องการพัฒนาผู้นำมากกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าในองค์กรมีลูกน้องค่อนข้างเยอะในแต่ละแผนกซึ่งจะทำให้องค์ต้องเสียเงินค่าอบรมเยอะ ทำให้องค์กรมุ่งไปที่การพัฒนาผู้นำมากกว่า อย่างไรก็ตามองค์กรสร้างลูกน้องที่น่ารักให้ดีได้ ดังคุณสมบัติที่ดีของการเป็นลูกน้องที่น่ารัก 10 ประการ มีรายละเอียดดังนี้ 1. มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงาน ก่อนอื่นเราต้องมาถามตัวเองก่อนว่าทุกวันนี้เราทำงานเพื่ออะไร เราทำงานเพื่อใคร และเป้าหมายการทำงานของเราคืออะไร หากทุกคนมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วก็จะทำให้เราทำงานได้ดี ทำงานให้ถูกใจเจ้านายได้เช่นเดียวกัน ถ้าทุกคนในองค์กรทำงานที่มีเป้าหมายเดียวกัน เดินไปในทิศทางเดียวกันก็จะทำให้องค์กรสำเร็จได้ง่าย และเร็วขึ้น 2.
มีการประสานงานที่ดีกับทุกคนในองค์กร อย่าลืมว่า การทำงานในบริษัทใหญ่นั้น จะต้องมีการติดต่อประสานงานกันระหว่างฝ่ายอยู่แล้ว และหัวหน้าที่ดีก็ย่อมต้องสามารถที่จะประสานงาน กับทุกฝ่ายในองค์กรได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีติดขัดหรือไม่มีข้อขัดแย้ง ใดๆ ระหว่างฝ่าย จนทำให้ลูกน้องอึดอัดและยากต่อการทำงาน 10. มีการตัดสินใจอย่างเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว สิ่งสำคัญที่สุด ของการเป็นผู้นำก็คือ 'การตัดสินใจ' เพราะไม่ว่าทีมงานหรือลูกน้องเจอปัญหาในการทำงาน ที่ต้องใช้การตัดสินใจแบบเร่งด่วน หัวหน้าก็ต้องช่วยตัดสินใจแทนได้ และที่สำคัญต้องตัดสินใจ แบบเด็ดเดี่ยวโดยยอมรับผล ที่อาจเป็นข้อผิดพลาดตามมาได้ด้วย ขอขอบคุณ p r t r
มีวิสัยทัศน์และสามารถทำให้เกิดขึ้นจริง การมีวิสัยทัศน์หรือไอเดียมากมายนั้นเป็นสิ่งดี แต่หากไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้สักอย่าง คนที่ทำงานร่วมกับคุณก็จะรู้สึกเหนื่อย และรู้สึกว่าสิ่งที่ลงแรงทำไปนั้นไร้ความหมาย เพราะไม่สามารถใช้ได้จริง หัวหน้าที่ดีจึงต้องทำให้วิสัยทัศน์ของตัวเองเกิดขึ้นได้จริงด้วย นั่นคือมีทั้ง Vision และ Mission เมื่อลูกน้องเห็นว่าหัวหน้าพูดจริง ทำจริง ก็จะมั่นใจมากขึ้นว่านี่ไม่ใช่แค่วิสัยทัศน์ลอยๆ เพราะหัวหน้าย่อมทำให้มันเกิดขึ้นได้แน่ๆ ไม่ว่าโปรเจกต์ต่อไปจะเป็นอะไร ลูกน้องก็พร้อมที่จะร่วมมือและให้ความช่วยเหลือคุณด้วยความเชื่อใจ 2. รับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำและคำพูดของตัวเอง คุณจะยิ่งเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องให้ความเชื่อถือมากขึ้นหากสามารถรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับคนในทีมได้ แม้มันอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่นักหากคุณไม่สามารถทำได้ตามที่รับปาก และลูกน้องของคุณก็คงไม่ถือโทษหรือบังคับอะไรคุณ แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ได้สูญเสียความน่าเชื่อถือที่ลูกน้องมีต่อคุณไปแล้ว และการสูญเสียความน่าเชื่อถือไปนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมีอะไรมาทดแทนได้ 3. เป็นคนที่สื่อสารให้คนอื่นเข้าใจได้ง่ายๆ การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมากหากต้องทำงานร่วมกับคน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นผู้นำ การสื่อสารที่ดีนั้นไม่ใช่การเป็นคนพูดเก่ง แต่มันคือการฟังเก่ง รู้จังหวะในการพูด และสื่อสารให้ตรงประเด็น ถ้าคุณเป็นหัวหน้าที่พูดเยอะ แต่คำพูดนั้นเต็มไปด้วยน้ำ ไม่มีเนื้อเลย ยากที่จะจับใจความได้ มันก็ทำให้คนอื่นไม่ค่อยอยากฟัง การสื่อสารที่ดีนั้นควรจะตรงประเด็น ชัดเจน ทำให้อีกฝ่ายเข้าใจความหมายของคำตอบ โดยที่ไม่ต้องตีความ ไม่ต้องอ้อมค้อมและไม่ต้องใช้เวลามาก เพราะการสื่อสารในการทำงานไม่ใช่การคุยกันเรื่อยเปื่อยที่ไม่ต้องมีประเด็นก็ได้ 4.
สนับสนุนการตัดสินใจ และการเลือกเส้นทางในอนาคตของลูกน้อง คนทำงานทุกๆ คนย่อมมีทางเดินเป็นของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าบางคนก็พร้อมที่จะเดินออกไปสู่เส้นทางที่ดีกว่าเดิมได้ในอนาคต โดยหัวหน้าที่ดีก็ต้องส่งเสริม และสนับสนุน อย่างเต็มที่เมื่อเข้าใจว่าเส้นทางที่ลูกน้องของตัวเองจะเดินไปในอนาคตนั้น ดีกว่า และสร้างความสุขให้กับชีวิตของเขาได้มากกว่า 10. มีการตัดสินใจอย่างเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว สิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นผู้นำก็คือ 'การตัดสินใจ' เพราะไม่ว่าทีมงานหรือลูกน้องเจอปัญหาในการทำงาน ที่ต้องใช้การตัดสินใจแบบเร่งด่วน หัวหน้าก็ต้องช่วยตัดสินใจแทนได้ และที่สำคัญต้องตัดสินใจแบบเด็ดเดี่ยวโดยยอมรับผลที่อาจเป็นข้อผิดพลาดตามมาได้ด้วย ขอบคุณที่มา: p r t r. c o m