การปลูกพืชหมุนเวียน (crop rotation) ไส้เดือนฝอยศัตรูพืชบางชนิดชอบที่จะเป็นปรสิตกับพืชบางชนิดเท่านั้น หากไม่มีพืชดังกล่าวปลูกระยะเวลาหนึ่งโดยหันไปปลูกพืชอื่นแทนประมาณ 3-4 ปี ไส้เดือนฝอยนั้นก็จะมีจำนวนน้อยลง วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้ในการควบคุมไส้เดือนฝอยศัตรูพืช Heterodera schachtii สาเหตุโรคของผักกาดหวาน และไส้เดือนฝอย Ditylenchus dipsaci ทำลายลำต้นของหญ้า แอลฟาลฟ่า ส่วนไส้เดือนฝอยชนิดอื่นที่มีพืชอาศัยกว้างขวาง รวมทั้งพืชอาศัยที่เป็นวัชพืชอื่นๆ จะใช้ไม่ได้ผล เช่น ไส้เดือนฝอยรากปม Meloidogyne spp. อนุกรมวิธานของไส้เดือนฝอยมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการวางแผนเพาะปลูกพืชหมุนเวียน เนื่องจากชนิดของไส้เดือนฝอยมีลักษณะเฉพาะในการเป็นปรสิตกับพืชอาศัยแตกต่างกัน เช่นไส้เดือนฝอยในสกุล Meloidogyne, Pratylenchus, Ditylenchus เป็นต้น หากมีการจัดหมวดหมู่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้จัดหาพืชปลูกได้ไม่เหมาะสม 2. การปฏิบัติทางการเกษตร การกำหนดเวลาปลูกพืชและเก็บเกี่ยว สามารถนำมาใช้ร่วมกับการปลูกพืชหมุนเวียนได้ เพื่อหลีกเลี่ยงระยะที่ไส้เดือนฝอยศัตรูพืชทำความเสียหายรุนแรง เช่นในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้มีการปลูกมันฝรั่งก่อนฤดู โดยปลูกตอนต้นปี จึงทำให้สามารถเก็บเกี่ยวมันฝรั่งได้ก่อนปกติ ได้ผลผลิตสูง เพราะไม่ได้รับความเสียหายจากไส้เดือนฝอย เนื่องจากเก็บเกี่ยวหัวมันฝรั่งก่อนที่ตัวอ่อนของไส้เดือนฝอยจะเข้าทำลาย เป็นต้น 3.
ลดปริมาณการสะสมของแหล่งไส้เดือนฝอย หรือกำจัดให้หมดไปจากพื้นที่เป้าหมาย โดยการปลูกพืชหมุนเวียนสลับกันไปเช่น ปลูกธัญญพืช พืชตระกูลหญ้าบางชนิด สลับกับทานตะวัน จะช่วยลดการระบาดของไส้เดือนฝอยลงได้ 2. ใช้วิธีการปลูกพืชล่อ (trap crop) ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ 2. 1. ปลูกพืชล่อพันธุ์อ่อนแอ ไส้เดือนฝอยจะเข้าทำลายพันธุ์ที่อ่อนแอ แล้วรีบไถกลบฝังลึกลงดินทันที อาจต้องไถกลบมากกว่าหนึ่งครั้ง ข้อควรระวัง คือ อย่าปล่อยให้พืชพันธุ์อ่อนแอนั้นเจริญอยู่นานเกินไป จะเป็นช่องทางให้ไส้เดือนฝอยรากปมขยายพันธุ์เป็นจำนวนมากขึ้น จนไม่สามารถกำจัดให้หมดไปจากพื้นที่เป้าหมายได้ 2. 2. ปลูกพืชที่เป็นพิษล่อให้ไส้เดือนฝอยเข้าทำลาย เมื่อไส้เดือนฝอยเข้าไปในรากแล้วก็ไม่สามารถเจริญต่อไปได้และตายในที่สุด พืชที่นิยมใช้ล่อได้แก่ ดาวเรือง เป็นต้น 3. ใช้สารเคมีชนิดเม็ดเช่น Furadan ใส่ลงไปในหลุมพร้อมกับหยอดเมล็ดปลูกพืช นอกจากจะช่วยป้องกันการเกิดรากปมแล้ว ยังป้องกันการทำลายของแมลงบางชนิดได้ด้วย แต่การใช้สารเคมีชนิดนี้ต้องระวังเพราะมีความเป็นพิษและผลตกค้างค่อนข้างนาน
วิธี กำจัด จำกัดไส้เดือนฝอย - YouTube
00 น.
หนึ่งปีในทุก 4 ปี เลือกปลูกพืชได้ไม่จำกัด 2. หนึ่งปีใน 3 ปี ที่เหลือของโครงการนี้ ด้วยการปลูกมันฝรั่งที่ต้านทานโรคสลับกับพันธุ์ที่เป็นโรคง่าย หมุนเวียนใน 3 ปี 3. หนึ่งปีใน 2 ปี ที่เหลือของโครงการนี้ใช้พันธุ์ต้านทานโรคปลูก 4. ส่วนปีที่เหลือใช้ยาฆ่าไส้เดือนฝอย ซึ่งเป็นการใช้ยาเพียงครั้งเดียวในโครงการ และการเพาะปลูกอาจใช้มันฝรั่งที่เป็นโรคง่ายปลูกสลับปีกับพันธุ์ต้านทานโรค เพื่อให้การเพาะปลูกได้ผลดี ด้วยการ ใช้ยาเพียงครั้งเดียวดังกล่าวแล้ว แนะนำวิธีใช้สารเคมีบนดิน 1. ดินควรอยู่ในสภาพที่มีความชื้นพอเหมาะ คล้ายกับสภาพในแปลงเพาะกล้า หากดินแห้งเกินไปจะทำให้แก๊สกระจายผ่านดินเร็วเกินไป ทำให้สูญเสียแก๊ส หากดินมีความชื้นสูงไป ก็ทำให้แก๊สกระจาย ในดินไม่ทั่วถึง 2. อุณหภูมิในดินควรอยู่ระหว่าง 10-20°ซ. ที่ระดับความลึกจากผิวดิน 6 นิ้ว 3. การไถเตรียมดินต้องลึก 8-12 นิ้ว ดินดานเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แก๊สกระจายในดินยาก การใช้ผานไถธรรมดามักไม่ได้ผล 4. ดินควรสะอาดปราศจากเศษซากพืช เช่นกากพืช ตอซัง ปุ๋ยพืชสดต่างๆ เพราะทำให้สูญเสียแก๊สได้ 5. การใช้ควรให้อยู่ในความลึกตามคำแนะนำของโรงงานผู้ผลิตสารเคมีชนิดนั้น แต่ไม่ควรตํ่ากว่า 8 นิ้ว 6.
กำจัดไส้เดือนฝอยกินรากด้วยปูนขาว - YouTube
🔴 [LIVE]Thai Green Agro มาแล้วครับ - YouTube
ตลาดกลางขายต้นไม้ ตกแต่งสวน รับจัดสวน บ้านและสวน ไม้ดอกไม้ประดับ อุปกรณ์ตกแต่งสวน อุปกรณ์การเกษตร สินค้าเกษตร สินค้า OTOP หน้าแรก > สินค้าจากคำว่า ยากำจัดไส้เดือนฝอย ผู้ขายยากำจัดไส้เดือนฝอย 2 ร้าน/สวน จำนวนยากำจัดไส้เดือนฝอย 2 รายการ คร็อพมาสเตอร์ | กรุงเทพมหานคร ราคาพิเศษ!
การใช้ควรทำก่อนปลูกพืช 7-15 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงเมล็ดและต้นกล้าเสียหาย 7. หลังการฉีดหรือหยอดยาลงไปในดินแล้ว ควรกลิ้งทับผิวหน้าดินให้แน่นบริเวณผิวหน้าทันที จะทำให้การสูญเสียแก๊สที่ระเหยจากดินสู่อากาศน้อยลง 8. แน่ใจในความอุดมสมบูรณ์ของดินในการให้ผลตอบแทนจากผลผลิตคุ้มกับการลงทุน หากใช้สารเคมีดังกล่าวหรือไม่ 9. เก็บรักษาสารเคมีอบดินไว้ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทดี เพื่อหลีกเลี่ยงก๊าซที่อาจรั่วออกจากภาชนะ และหลังการปฏิบัติงานให้รีบถอดเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มออก แล้วทำความสะอาดร่างกาย ล้างมือที่เปรอะเปื้อนด้วยน้ำมันก๊าซก่อน หากบังเอิญเข้าตาให้รีบล้างน้ำไปพบแพทย์ทันที ที่มา:ไพโรจน์ จ๋วงพานิช ความรู้ด้านการเกษตร ที่น่าสนใจ