ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ปภ. )
ต. ท. วรานนท์ จุลละนนท์ รอง ผกก. สอบสวน รักษาการในตำแหน่งผู้กำกับ สภ. เมืองจันทร์ พร้อมด้วย ร. อ. ประมวล บุษบา รองาสรวัตร(สอบสวน) สภ. เมืองจันทร์ ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอีกครั้งในช่วงสายของวันนี้ เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐาน พยานที่พบเห็นเหตุการณ์เมื่อคืนก็ไปช่วยชี้จุดการเกิดเหตุ เพื่อประกอบหลักฐานดำเนินคดี ซึ่งมีชาวบ้านทั้งชาวบ้านสะแม๊ะ ชาวบ้านตาโกน ชาวบ้านแกงเลี้ยว ตลอดสองข้างทางที่ได้พบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อคืน เบื้องต้นตั้งข้อหา นายราเมศ ในฐานความผิด ขับรถชนผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และเมาสุราขับรถชนผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และข้อหาเมาสุรา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มาตรวจสอบสภาพรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ ที่ได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ. เมืองจันทร์ พบว่าสภาพพังยับทั้งคัน ซึ่งเป็นผลจากการถูกชน และลากไปไกลกว่า 2 กิโลเมตร ขณะที่สภาพของรถยนต์ก็ไม่ได้ต่างกัน ซึ่งเชื่อว่า ช่วงชนน่าจะไม่พังยับมาก แต่หลังจากนั้นที่ขับมาตกลงไปในคลองข้างทาง ลงไปยังทุ่งนา อาจทำให้เสียหายหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า เจ้าพ่อที่ ศาลเจ้าปู่ตาบ้านตาโกน ที่ศักดิ์สิทธิ์ ได้ดึงเอารถยนต์คันที่ก่อเหตุชนครอบครัวลุนลาเอาไว้ ขณะพยายามขับหลบหนี เพื่อไม่ได้ขับไปต่อได้ ภายหลังจากที่ขับหลบหนีมากำลังจะถึงหมู่บ้านตนเองแล้ว ต้องมาประสบเหตุรถยนต์พุ่งตกคลองข้างทางในทุ่งนา ห่างจากศาลปู่ตาบ้านตาโกน เพียง 50 เมตรเท่านั้น
ศ.
อัพเดท! มือใหม่หัดขับต้องระวัง เป่าแอลกอฮอล์เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเมาแล้วขับ ตำรวจจับแถมประกันไม่จ่าย อ้างอิงตามตามกฎหมายและเงื่อนไขของประกันรถยนต์ที่ คปภ. ออกมาใหม่ล่าสุด โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีการปรับเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ผู้ทำประกันรถยนต์จำเป็นต้องรู้เพิ่มเติมจาก ข้อสอบใบขับขี่ 2563 รถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่ง Frank จะมาอธิบายให้ได้ทราบกันดังนี้ครับ เป่าแอลกอฮอล์เงื่อนไขใหม่ ห้ามเกิน 20 มก. % เมื่อก่อนเราเข้าใจกันว่า หากขับรถไปชนจนเกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แล้วมีการตรวจสอบเป่าแอลกอฮอล์พบว่าผู้ขับขี่มีปริมาณ แอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีความผิดในข้อหา "เมาแล้วขับ" และบริษัทประกันรถจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายจากกรณีเมาแล้วขับ แต่.. ภายใต้เงื่อนใหม่จะถูกปรับเปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่ง Frank จะสรุปให้เข้าใจง่ายดังนี้ครับ 1. เปลี่ยนมาตรฐานการเป่าวัดแอลกอฮอล์ใหม่ หากพบว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กำหนดจะถือว่าเมาแล้วขับ มีความผิดทางกฎหมาย และประกันจะไม่จ่ายค่าชดเชยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระดับเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ในกรณีที่ ผู้ขับขี่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์, บุคคลที่มีใบขับขี่ชั่วคราว (มือใหม่ใบอนุญาตขับขี่ยังไม่ถึง 2 ปี), บุคคลที่ไม่มีใบขับขี่, บุคคลที่โดนพักหรือเพิกถอนใบขับขี่ ระดับเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ในกรณีที่บุคคลที่มีใบขับขี่ตลอดชีพหรือใบขับขี่ 5 ปี และมีอายุเกิน 20 ปี ซึ่งบุคคลเหล่านี้ใช้มาตรฐานเดิมครับ 2.
27 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16. 01-20. 00 น. ร้อยละ 26. 67 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 30-39 ปี ร้อยละ 17. 81 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1, 908 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 59, 315 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 341, 495 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 71, 889 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18, 998 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 17, 599 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปทุมธานี (4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี ตาก นครศรีธรรมราช (จังหวัดละ 13 คน) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (10-14 เม. ย. 64) เกิดอุบัติเหตุรวม 1, 795 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 192 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 1, 818 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 15 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช (76 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น ปทุมธานี (จังหวัดละ 8 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (82 คน) ด้านนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ. )
ผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ตาม พ. ร. บ. จราจรทางบก 2522 มาตรา 123 วรรคสอง ประกอบกับมาตรา 148 ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์ และคนโดยสารรถยนต์ดังกล่าวต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งโดยสารขณะโดยสารรถยนต์ด้วย หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท 3. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ตาม พ. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 มาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 40 ผู้ใดขายเครื่องดื่มให้บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20, 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 4. ไม่พกใบขับขี่ ตาม พ. รถยนต์ 2522 มาตรา 42 ประกอบกับมาตรา 66 ผู้ใดขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาตขับรถ มีโทษปรับไม่เกิน 1, 000 บาท 5. เพื่อนบ้านเปิดเพลงเสียงดัง รบกวน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ มีโทษปรับไม่เกิน 5, 000 บาท ซึ่งหากการกระทำดังกล่าว ได้กระทำในที่สาธารณะ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10, 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากข้อกฎหมายที่ควรรู้แล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ทุกช่วงเทศกาล คือเบอร์โทรฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ดังนี้ 191 แจ้งเหตุฉุกเฉิน เหตุด่วนเหตุร้าย 1669 สายด่วนของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ. )
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 เม. ย. ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนนทบุรีได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลข อ 533/2564 ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานอาญาธนบุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ซึ่งคดีนี้นายปรเมศวร์ให้การรับสารภาพ ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ. ศ.
รู้หรือยังว่าเมาแล้วขับเจอโทษหนักขึ้นกว่าเดิม เรื่องสำคัญที่นักดื่มต้องเตือนตัวเอง ถ้าเมาแล้วอย่าขับรถ ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ติดอันดับต้น ๆ การเกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ แม้ทางรัฐเองก็มีกฎหมายข้อบังคับต่าง ๆ ออกมาเพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุเหล่านี้ แต่ก็ดูเหมือนว่ายังไม่ค่อยได้ผลเท่าไรนัก เมื่อดูจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่มีสาเหตุเกิดจากการเมาแล้วขับยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นทาง masii จึงนำข้อมูลเรื่องข้อกฎหมายและอัตราค่าปรับมาแจกแจงให้นักดื่มได้รับรู้กัน โดยเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 รัฐมนตรีได้อนุมัติ พ. ร. บ.
ศ. 2561 นี้เรายังใช้พระราชบัญญัติเดิมกันอยู่ และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม มาดูกันสักหน่อยดีกว่าว่าร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับใหม่นี้ มีความผิดฐานอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะมึนเมา ตลอดจนกฎหมายใหม่จะปรับโทษขึ้นหรือคงโทษเดิมในแต่ละฐานไว้อย่างไรบ้าง ความผิดฐานขับขี่ขณะมึนเมา ความผิดฐานนี้คือเมาแล้วขับเฉย ๆ ยังไม่ได้ชนใคร ยังไม่ได้ทำให้ใครบาดเจ็บ โดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.
หลังจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการกำหนดเรตอัตราค่าปรับตามความผิดตามพรบ จราจรทางบกใหม่ขึ้นมา และจะบังคับใช้ต่อไปในปี 2564 หรือ 2020 ทำให้มีการเปลี่ยนอัตราค่าปรับกรณีทำผิดกฎจราจร ทั้งไม่พกใบขับขี่ จอดในที่ห้ามจอด และอื่นๆ เช็กอัตราค่าปรับจราจรล่าสุดได้เลย ค่าปรับใหม่จะใช้เรตตายตัว ไม่มีการใช้วิจารณญาณของตำรวจอีกต่อไป พูดง่าย ๆ คือ ผิดข้อไหน จ่ายตามข้อนั้น ไม่มีลดไม่มีเพิ่ม มีค่าปรับตั้งแต่ 200 - 1, 000 บาท เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 พ. ย. 63 เป็นต้นไป โดยเรตค่าปรับที่เปลี่ยนไป มีดังนี้ 1. ไม่พกใบขับขี่ หรือ ไม่แสดงใบขับขี่ โดนค่าปรับ 200 บาท โดยถ้าใครลืม สามารถแสดงใบขับขี่ดิจิทัลได้นะ ใครยังไม่รู้วิธีทำ ใบขับขี่ดิจิทัล อ่านที่นี่เลยครับ 2. เครื่องยนต์ควันดำ โดนค่าปรับ 1, 000 บาท ใครที่มีรถควันดำต้องปรับปรุงด่วนเลยครับ 3. ฝ่าฝืนเครื่องหมายหรือสัญญาณไฟจราจร โดนค่าปรับ 500 บาท 4. ขับขี่บนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันควร โดนค่าปรับ 500 บาท ข้อนี้คนขับมอไซค์ต้องดูไว้เลยครับ อย่าเห็นว่าสะดวก ขับใกล้ๆ เลยขึ้นทางเท้าเลยนะ เสียห้าร้อยเลย ไม่คุ้มๆ 5. ขับเร็วเกินกำหนด ปรับ 500 บาท 6.