แก้วหัดดื่มของลูกมีเชื้อรา ทำให้มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง แม่แชร์ประสบการณ์: ยีราฟโซฟี ตุ๊กตายางกัดของลูกน้อยมีเชื้อราอยู่ข้างใน ลูกไม่ยอมกินผัก ฝึกลูกกินผัก ยังไงดี (2-5 ขวบ)
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับคุณแม่ตั้งครรภ์ เมื่อตั้งครรภ์ 8 เดือน การตั้งครรภ์เดือนที 8 แพทย์จะนัดทุกสองสัปดาห์และจะตรวจร่างกายเหมือนเดือนที่ 5 คุณแม่ในช่วงเดือนนี้ มักตรวจพบอาการไม่สุขสบายหลายอย่าง ที่พบบ่อยคือ 1. หายใจตื้น หายใจขัด หายใจไม่อิ่ม เนื่องจากมดลูกจะบีบตัวมากขึ้น และยอดมดลูกที่สูงขึ้นไปเบียด กดทับกระบังลม ทำให้คุณแม่หายใจไม่สะดวก แนะนำให้นั่งตัวตรง หนุนหลังด้วยหมอนนุ่มๆ สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ แบ่งมื้ออาหารเป็นหลายๆมื้อ แต่และมื้อไม่ควรรับประทานอิ่มมากเกินไป 2. เจ็บอวัยวะเพศและหัวหน่าว เกิดจาก เชิงกรานขยาย และ ทารกเริ่มกลับศรีษะแล้ว ทำให้ศรีษะของทารกไปกดเสินประสาทบริเวณอุ้งเชิงกรานทำให้คุณแม่มีอาการปวดมากขึ้น ลดการเดิน นอนพักผ่อนให้เพียงพอ หากอาการปวดต่างๆไม่ดีขึ้นแนะนำให้พบสูติแพทย์ 3. ท้องแข็ง ท้องปั้นบ่อย เกิดจาก การบีบตัวของมดลูก สามารถเกิดขึ้นได้แม้แต่ผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ โดยสังเกตได้จากอาการปวดท้องเวลามีประจำเดือน ส่วนคุณแม่ตั้งครรภ์มดลูกจะขยายใหญ่ขึ้น และการบีบตัวก็จะมีมากขึ้น จนทำให้คุณแม่รู้สึกปวดท้องหรือท้องแข็งนั่นเอง ซึ่งเกิดจากเลือดที่มาเลี้ยงมดลูกน้อยลง ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกขาดเลือด คุณแม่จึงรู้สึกเจ็บๆ ตึงๆ ที่ท้อง ธรรมชาติมดลูกจะบีบตัวมากที่สุดตอนจะคลอดค่ะ แต่ถ้าคุณแม่มีอาการท้องแข็งหรือปวดท้องมากทั้งๆที่ยังไม่ถึงกำหนดคลอด อาจเป็นสัญญาณเตือของการคลอดก่อนกำหนดได้ 4.
นำ้หนักทารก 1-10 สัปดาห์ น้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ของเด็ก เลี้ยงลูกแบบธรรมชาติ เคล็ดไม่ลับฝึกลูกให้มีความพยายาม พร้อมประสบความสำเร็จในอนาคต
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
วัคซีนเด็ก 2565 ตัวไหนต้องฉีด ตัวไหนต้องเสริม มาดูกัน
goodluz/shutterstock - Advertisement - 4 อาการปวดท้องเด็กทารกแรกเกิด – 1 ขวบ ที่ต้องเจอ และวิธีช่วยเหลือ เด็กทารกแรกเกิด – 1 ขวบ มักจะมีอาการปวดท้อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเด็กรุ่นนี้อยู่แล้วค่ะ เรามาดูกันนะคะ ว่าทำไมเด็ก ๆ จึงมีอาการปวดท้อง และวิธีที่จะช่วยลดอาการเหล่านี้ให้น้อยลงหรือดีขึ้นต้องทำอย่างไร มาดูกันค่ะ 1. ลูกมีอาการท้องอืด แน่นท้อง ท้องเฟ้อ อาการแก๊สในกระเพาะอาหารเด็ก เป็นอาการที่เด็กทุกคนต้องเป็น เป็นอาการที่มีลมไปดันอยู่ในลำไส้ สาเหตุส่วนมากเกิดจากการ ดูดนมจากขวด เพราะอากาศจะผ่านเข้าไปตอนเด็กดูดนมนั่นเอง คุณแม่สามารถสังเกตได้จากท้องลูกที่ป่องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเด็กจะร้องงอแง บิดตัวไปมา ถ้าลูกมีอาการแบบนี้คุณแม่ช่วยลูกได้ง่าย ๆ โดยนำตัวลูกขึ้นมานอนทับให้ส่วนท้องอยู่ตรงหน้าขาและขยับตัวลูกเบา ๆ เพื่อไล่ลมออกจากท้อง หรือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกผายลมให้ได้มากที่สุดค่ะ 2. กรดไหลย้อนในเด็ก เด็กทารกก็เป็นกรดไหลย้อน ได้เหมือนผู้ใหญ่ เนื่องจากกระเพาะอาหารของลูกยังทำงานไม่สมบูรณ์ หรือ เกิดจากการที่ลูกกินมากเกินไปหรือกินเร็วเกินไปนั่นเอง เด็กจะร้องไห้งอแง เด็กบางคนอาจมีอาการสำลัก หรือ อาเจียน ออกมาด้วย ถ้าลูกมีอาการเช่นนี้ คุณแม่สามารถช่วยได้ ด้วยการทำให้ลูกเรอออกมา หลังกินอาหาร จะจับนั่งบนตักค่อย ๆ ลูบหลัง หรือ จับพาดบ่าเพื่อให้เรอก็ทำได้ วิธีแนะนำควรจับลูกให้อยู่ในท่าหลังตรง ประมาณ 20 นาที หลังมื้ออาหารจะช่วยลดอาการนี้ได้ดีที่สุดค่ะ 3.
มือเท้าบวม ในช่วงกลางของไตรมาสที่สอง และในช่วงไตรมาสสุดท้าย คุณแม่อาจมีอาการบวมตามนิ้วมือเพิ่มขึ้น นอกจากนี้มดลูกที่ขยายตัวขึ้น อาจไปกดทับเส้นเลือดที่ลำเลียงเลือดจากร่างกายส่วนล่างกลับสู่หัวใจ ระบบการไหลเวียนเลือดจึงช้าลง ส่งผลให้มีเลือดคั่งอยู่บริเวณขามากกว่าปกติ และทำให้เกิดอาการตัวบวมได้ อาการนี้มักเกิดในตอนเย็นของทุกวัน โดยเฉพาะช่วงที่อากาศร้อน อาการบวมน้ำโดยทั่วไปไม่มีอันตราย ยกเว้น… • เกิดอาการบวมตามใบหน้า หรือบริเวณรอบดวงตา • เกิดพร้อมน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว (มากกว่า 1. 8 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์) • เกิดพร้อมอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงและเรื้อรัง • เกิดพร้อมอาการสายตาผิดปกติ, มองเห็นภาพซ้อน, ภาพเบลอ, เห็นจุดแสง, ตาไวต่อแสง หรือมองไม่เห็นในบางครั้ง • เกิดพร้อมอาการปวดช่วงท้องด้านบนอย่างรุนแรง หรือกดเจ็บ • เกิดพร้อมอาการคลื่นไส้/อาเจียน หากเกิดอาการบวมน้ำร่วมกับอาการเหล่านี้ คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับทารกและตัวคุณแม่เองได้ การดูแลตนเองของคุณแม่ ตั้งครรภ์ 8 เดือน 1. ระวังอุบัติเหตุ เนื่องจากอยู่ในระยะใกล้คลอดแล้ว ประกอบกับขนาดของทารกโตมากขึ้น การเคลื่อนไหวของคุณแม่จึงเป็นไปอย่างลำบาก สิ่งที่ตามมาคือ อุบัติเหตุและการปวดเมื่อยต่างๆ 2.
รับประทานอาหารย่อยง่าย ช่วงเดือนที่8 ทารกในครรภ์น้ำหนักพุ่งอย่างรวดเร็ว คุณแม่ควรรับประทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรบำรุงมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้หายใจไม่สะดวก เพราะการเผาผลาญของแม่ตั้งครรภ์จะลดลง ไม่ควรดืมนมมากเกินความจำเป็น หากคุณแม่จำเป้นต้องดื่มนมวัว ควรดื่มวันและ 1 แก้ว หรือมากสุดไม่เกิน 2 แก้ว ต่อวัน เลือกอ่านอายุครรภ์อื่นๆ โดยการคลิกที่ตัวเลขค่ะ เรียบเรียงโดย: Mamaexpert Editorial Team
4 ICD - 9-CM: 789. 7 MeSH: D003085 ทรัพยากรภายนอก MedlinePlus: 000978 eMedicine: ped/434 Patient UK: ปวดบิดในทารก
หนึ่งในคำถามที่ผู้หญิงมักถามตัวเองและเกิดข้อสงสัย เมื่อประจำเดือนขาดคือ "ฉันท้องหรือเปล่า? " อาการท้องไม่รู้ตัว เป็นสิ่งที่พบเจอได้ในคุณแม่ท้องแรก คือ ไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้ตัวอีกทีก็ตั้งครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว หรือบางคนอาจรู้ตัวตอนใกล้ถึงกำหนดคลอดแล้วก็เป็นได้ อาการนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่พบได้ค่อนข้างบ่อย หากละเลย อาจทำให้ไม่สามารถดูแลครรภ์ และติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้อย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ การแท้งบุตร เป็นต้น อาการท้องไม่รู้ตัวจะมีสัญญาณหรืออาการอะไรบ้างที่บ่งบอกว่า คุณอาจกำลังตั้งครรภ์ เราไปหาคำตอบกันเลย อาการท้องไม่รู้ตัว เกิดจากอะไร 1.