จำนวน 34, 887 แห่ง ได้รับการสนับสนุนงบฯเพิ่มเติมเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนรู้และแก้ปัญหาความปลอดภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และ จัดทำสื่อ อุปกรณ์การเรียนรู้ รวมวงเงินรวมประมาณ 400 ล้านบาท "การกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนยึดหลักการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้เรียน ทั้งในสถานศึกษาทั่วไป ด้อยโอกาส ยากจน และกลุ่มเด็กพิการ และจากมติ ครม. ในครั้งนี้จะทำให้ผู้เรียนทุกกลุ่มได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเรียนและการดำรงชีวิต ทำให้มีความพร้อมในการเรียน ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะเดียวกันสถานศึกษาก็ได้รับการสนับสนุน เพื่อให้สามารถจัดการเรียนรู้ เพื่อลดช่องว่าง การเรียนรู้ และผลกระทบด้านความรู้ของนักเรียน นักศึกษาที่ขาดหายไป และในส่วนของผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ก็ได้รับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ของบุตรหลานเพิ่มเติมมากขึ้น " น. ตรีนุช กล่าวต่อว่า กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสังกัด ศธ. และนอกสังกัด ศธ. ที่ได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 2, 000 บาท จำนวนรวมเกือบ 11 ล้านคน ประกอบด้วย นักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาสังกัด ศธ.
จะมีประมาณ 11 ล้านคน ซึ่งมีวงเงินรวมประมาณ 21, 600 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสิ่งที่ ศธ. ดำเนินการในโครงการดังกล่าวก็เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครองและนักเรียนในสภาวะวิกฤตโควิด-19 โดยเงินเยียวยาดังกล่าวหากนักเรียนกลุ่มใดที่เรียนในรูปแบบ Online สามารถนำเงินจำนวนนี้มาช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอินเตอร์เน็ตได้ ขณะที่กลุ่มนักเรียนที่เรียนในรูปแบบ Onsite สามารถนำเงินมาใช้จ่ายช่วยค่าดำรงชีพให้แก่ตัวเอง และครอบครัวได้เช่นเดียวกัน