ผสมน้ำมะนาวและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงในชาม ใช้ช้อนไม้หรือพลาสติก เพื่อกวนส่วนผสมให้เข้ากัน 3. ใช้ส่วนผสมนี้ทาบริเวณที่เป็นสิว เว้นบริเวณรอบดวงตา 4. เช็ดหน้าให้แห้งและทาครีมบำรุงผิวที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ 4. วิธีรักษาสิวด้วยว่านหางจระเข้และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ส่วนผสม - คลีนซิ่งทำความสะอาดใบหน้า - เจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ - ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% 1-2 ช้อนชา - สำลีแผ่น วิธีทำ 1. ล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งทำความสะอาดใบหน้า เช็ดให้แห้งสนิท 2. นำสำลีแผ่นมาชุบไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จนเปียก 3. และนำมาทาบริเวณผิวหน้าให้ทั่ว 4. เช็ดหน้าให้แห้ง ใช้เจลว่านหางจระเข้ทาบาง ๆ ลงบนผิว ไม่ต้องล้างออก 5. วิธีรักษาสิวด้วยยาแอสไพรินและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ส่วนผสม - คลีนซิ่งทำความสะอาดใบหน้า - ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% 5 ช้อนชา - ยาแอสไพรินบดละเอียด 3 เม็ด - ครีมบำรุงผิวที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ วิธีทำ 1. ล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งทำความสะอาดใบหน้าและเช็ดให้แห้งสนิท 2. ผสมแอสไพรินและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงในชาม ใช้ช้อนไม้หรือพลาสติก เพื่อกวนส่วนผสมให้เข้ากัน 3. นวดเบา ๆ ประมาณ 30 วินาที เพื่อให้ผิวนุ่มขึ้น 5. ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที และล้างหน้าด้วยน้ำเย็น 6.
สิวอุดตันหัวเปิด สิวประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นจุดสีดำบนบริเวณผิวหน้า เกิดจากการอุดตันของขน เซลล์ผิวที่ตายแล้วและไขมันภายในรูขุมขน เมื่อสิ่งสกปรกตกค้างเหล่านี้มาทำปฏิกิริยาด้วยกันและโผล่พ้นผิวหนังมาสัมผัสออกซิเจน จึงทำให้เปลี่ยนสีดำค่ะ ซึ่งสิวประเภทนี้สามารถที่จะกดหรือบีบออกได้ แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการกด เพราะถ้าไม่ระวังก็สามารถทำให้เกิดการอักเสบได้ค่ะ 2. สิวอุดตันหัวปิด หรือสิวอุดตันหัวขาว เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อุดตันภายในรูขุมขน แต่ไม่ได้สัมผัสกับอากาศจึงมองเห็นเป็นจุดสีขาวอุดตันอยู่บนผิวหนัง สิวชนิดนี้เป็นสิวที่ไม่ควรแกะหรือบีบออก เพราะว่าอาจจะทำให้ไขมันย้อนกลับเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อผิวหนัง ทำให้เนื้อเยื่อเกิดความเสียหายและอักเสบได้ค่ะ 5 วิธีรักษาสิวอุดตันด้วยตัวเอง 1. การล้างหน้าให้ถูกวิธี การล้างหน้าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการลดสิวได้ และยังสามารถลดสิวได้ในระยะยาวด้วยค่ะ โดยข้างใต้ผิวเราจะมีโพรงขนอยู่เป็นจำนวนมาก การล้างหน้าจะทำให้สิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ในส่วนนี้หลุดออกไป ทำให้โอกาสในการเกิดสิวลดน้อยลงและยังช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ด้วย 2. การสครับผิวหน้า การสครับผิวหน้าเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไปได้ แต่ว่าไม่แนะนำให้ทำในคนที่มีสิวอักเสบ เพราะว่าการสครับผิวหน้า อาจจะรบกวนผิวที่กำลังอ่อนแอ และยิ่งจะทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มมากขึ้นได้ค่ะ ดังนั้นก่อนที่จะสครับผิวหน้าเราต้องรักษาสิวอักเสบให้หายดีเสียก่อนค่ะ 3.
บทความที่คุณอาจสนใจ